Wednesday, July 28, 2010

การฝึกฟังและฝึกออกเสียง

สวัสดีครับ วันนี้อยากจะเสนอแนวทางในการฝึกฟังและฝึกออกเสียงครับ หลายๆครั้งเวลาเราฟังภาษาต่างประเทศไม่ใช่แค่ฟังไม่รู้เรื่อง บางคนยังฟังไม่ออกด้วยว่าเค้าออกเสียงอะไรออกมาบ้าง วันนี้ผมขอแนะแนวเล็กน้อยในการออกเสียงนะครับ เวลาฟังภาษาอังกฤษก่อนที่เราจะต้องมาหาความหมายหรือแปล อยากจะให้ฟังก่อนว่าเค้าออกเสียงออกมาอย่างไร

1. ให้หาประโยคมาซักหนึ่งประโยค อาจจะอัดเสียงมาจากหนัง รายการทีวี หรือเพลงอะไรก็แล้วแต่ครับ แต่เอาเป็นประโยคที่เป็นธรรมชาติ ถ้าเป็นไปได้ พยายามอย่าเอาในตำรานะครับ เพราะบางตำราเจ้าของภาษาจะพยายามออกเสียงให้ชัดซึ่งมันผิดกับธรรมชาติเวลาที่เค้าพูดกันในชีวิตประจำวัน (ถ้าหากว่ายังใหม่อยู่ในเรื่องของการฟังให้พยายามหาประโยคที่สั้นๆ ง่ายๆครับ)   ถ้าได้มาแล้วห้ามเปิดซับไตเติ้ลดูนะครับ เพราะเราจะฝึกฟังเสียงเป็นหลัก

2. ให้ฟังประโยคนั้นซัก 3 รอบโดยไม่ต้องออกเสียงอะไรทั้งสิ้น ให้ฟังเฉยๆ อย่างเดียวเลย และรอบที่ 4 ให้พยายามออกเสียง โดยครั้งแรกนี้จะเน้นเรื่องจังหวะขึ้นลงเป็นหลักครับ พยายามจับจังหวะให้ได้ ว่าเค้าลากเสียงที่เสียงไหน พยายามเรื่องจังหว่ะก่อนครับ ไม่ต้องสนใจว่าเค้าออกเสียงอะไร แต่ให้จับเสียงว่าเค้าจังหวะขึ้นลงและความสั้นความยาวของเสียง คล้ายๆกับว่าเราเคยงฟังเพลงเพลงหนึ่ง แต่เราจำเนื้อร้องนั้นไม่ได้ จำได้แต่ทำนองอะไรประมาณนั้น ภาษาก็เหมือนกันครับ

3. เมื่อจังหวะไปได้กับเสียงแล้ว ให้พยายามออกเสียงครับโดยให้ฟังนะครับว่าเค้าเปล่งเสียงอะไรออกมาโดยห้ามเดาว่าเป็นคำอะไร โดยให้จดจ่อกับเสียงเป็นหลัก หรืออาจจะไม่ต้องจดจ่อเพราะอาจจะเครียด แต่ให้ฟังหลายๆครั้งจนหูชินกับประโยคนั้นๆ จนสามารถแยกแยะเสียงได้ และให้พูดออกมาตามที่ได้ยินครับ

4. พอฝึกไปเรื่อยๆจนคิดว่าคล้ายมากที่สุดแล้ว คราวนี้ให้เราอัดเสียงที่เราพูดครับและเอาไปเทียบกับเจ้าของภาษา

5. คราวนี้ให้เปิดซับไตเติ้ลดูครับ คราวนี้บางคนอาจจะประหลาดใจว่าที่เราเคยอ่านกับที่เจ้าของภาษาเค้าออกเสียงมันไม่ตรงกัน นี่แหละครับคือสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถฟังออก เพราะเค้าออกเสียงกับเขียนไม่ตรงกัน (จริงๆมันก็ตรงกันแหละครับ แต่เป็นเสียงที่ตรงกับประเทศเค้าไม่ใช่ประเทศเรา อิอิ)

6. ฝึกประโยคอื่นๆ ด้วยครับ ฝึกไปเรื่อยๆ ถ้ายิ่งฝึกและยิ่งรู้สึกว่าแย่ ก็อย่าเพิ่งท้อครับเพราะเราอยู่ในช่วงของการปรับการฟังและการออกเสียง บางครั้งมันอาจจะฟังดูแปล่ง ๆ ไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่ฝึกไปเรื่อยๆ จะดีขึ้นเองตามลำดับ จะสามารถพูดประโยคได้ยาวขึ้น ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ฝึกแบบนี้เราจะได้อะไรบ้าง

การฟัง ถึงจะยังพูดไม่เก่งแต่เรื่องฟังนี้เราจะดีขึ้นแน่นอน เพราะว่าเราพยายามปรับเสียงให้ตรงกับที่เจ้าของภาษาพูด เหมือนกับพูดสำเนียงเดียวกัน คนบ้านเดียวกันฟังกันรู้เรื่องอะไรประมาณนั้น

การพูด จะช่วยในเรื่องของการพูดของเราด้วยครับ เพราะถ้าเราฟังออกเราก็จะพูดได้มากยิ่งขึ้น เวลาพูดให้พูดออกไปเลยครับ อย่าไปห่วงเรื่องแกรมม่า พูดผิดให้ Tense กระจายไปเลย เน้นเรื่องการออกเสียงเป็นหลัก เพราะแกรมม่าถ้าอยากให้ดูเป็นธรรมชาติต้องใช้ประสบการณ์ครับ เพราะเจอประโยคไหนที่ใช้แกรมม่าไหนบ่อยๆ เราก็จะพูดออกมาได้เลย แกรมม่าของเราจะถูกขึ้นเรื่อยๆครับ สังเกตุว่าถ้าเราห่วงเรื่องแกรมมา เวลาเราจะพูดทำให้เราต้องหยุดไปซักพักหนึ่งและถูกพูดออกมา ซึ่งมันดูไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ พูดไปเรื่อยๆกับต่างชาติแกรมม่าของเราจะถูกปรับให้ถูกเองทีละนิดครับ อย่าไปฝืน และอีกอย่างการพูดผิดแกรมม่าแต่ต่างชาติฟังเข้าใจเขาก็ยังเดาได้มากกว่า การออกเสียงและเค้าฟังไม่รู้เรื่องครับ

ขอให้สนุกกับการฝึกครับ
 ปล. อย่าไปกลัวอะไรทั้งนั้น ฟังไปเถอะพูดไปเถอะ เราทำเราได้ครับ

Tuesday, July 6, 2010

เมื่อวานทดลองสอนภาษาอังกฤษผ่านหนังกับนักเรียนจ่าครับ

เมื่อวานนี้ได้ทดลองสอนนักเรียนจ่าผ่านหนังฝรั่งครับ และได้สังเกตพฤติกรรมต่างๆระหว่างที่เกิดขึ้นในห้องเรียน โดยรวมแล้วผมรู้สึกว่า การที่ได้มีภาพวิ่งตลอดเวลาบนโปรเจคเตอร์นั้น จะทำให้นักเรียนสนใจมากยิ่งขึ้น เหมือนเราดูทีวีครับเราสามารถนั่งดูได้ตลอดโดยที่ไม่รู้สึกอึดอัดกระวนกระวายและอีกอย่างไม่น่าเบื่อ และโดยเฉพาะการเรียนผ่านสื่อนั้น นอกจากจะทำให้เด็กสนใจเรียนขึ้นแล้ว ผมรู้สึกว่าเด็กได้สัมผัสกับเสียงเจ้าของภาษาเพื่อปรับในเรื่องทักษะการฟังได้ดียิ่งขึ้น โดยขณะสอนผมจะพักเป็นตอนๆไปและแปลคำศัพท์พร้อมกับให้นักเรียนช่วยแปลเพื่อให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการแปลมากยิ่งขึ้น บางคำศัพท์นักเรียนสามารถแปลได้เลยโดย

Sunday, July 4, 2010

ทำไมนักเรียนไทยถึงดื้อ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปกินหมูกะทะกับเพื่อนชาวต่างชาติ ระหว่างที่กำลังกินกันอยู่ มีเพื่อนของผมคนหนึ่งชื่อว่า ไอวี ถามผมว่า ทำไมนักเรียนในห้องของเธอไม่สนใจเรียนเลย แถมด่าเธอด้วย รู้ไหมครับว่านักเรียนด่าว่าอะไร "ไอ้ตัวตะกวด กับคำว่าไอ้Animal" ครับ เล่นซะผมอึ้งเลยครับ ผมเลยถามว่าและบอกนักเรียนหรือเปล่าว่าเธอเข้าใจสิ่งที่นักเรียนด่า

Monday, June 28, 2010

ยศทางทหารเรือเป็นภาษาอังกฤษ

วันนี้ขอไปก็อปปี้เค้ามาครับ จากลิ้งด้านล่างนี้เลย เจ้าของบล็อกก็เป็นทหารเรือเหมือนกันครับ ใช้ชื่อว่า "จักรีนฤเบศร"ครับ ผมว่าคำศัพท์พวกนี้เป็นคำศัพท์ที่สมควรแก่การจดจำอย่างยิ่ง
http://gotoknow.org/blog/anuwat-api103/216447

Sunday, June 20, 2010

เรียนภาษาอังกฤษอย่างไรให้สนุก

สวัสดีครับ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้ไปเยี่ยมเพื่อนชาวต่างชาติที่เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ โดยเพื่อนของผมคนนี้ได้ระบายความรู้สึกที่สอนนักเรียนไทยว่า
เด็กไทยสอนยากมาก ไม่ค่อยให้เกียรติครูต่างชาติ ชอบคุยและเล่นกันในห้อง ไม่สนใจเรียนหรือกิจกรรมที่ให้ความรู้ บางคนแต่งหน้าในห้องเรียน คุยโทรศัพท์ (บอกก่อนนะครับว่าเพื่อนผมสอนที่วิทยาลัยเทคโนแห่งหนึ่งที่อยู่ในกรุงเทพ)
ผมพอจะเข้าใจครับเพราะว่าผมเคยเจอเรื่องพวกนี้บ่อยๆ ผมก็เลยบอกเพื่อนผมว่าเด็กอาจจะขาดแรงจูงใจหลายประการ เช่น เด็กไม่รู้ว่ามันสำคัญในการดำเนินชีวิตในภายภาคหน้า เด็กอาจจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับภาษาอังกฤษจากอาจารย์คนก่อนๆ เด็กอาจฟังไม่รู้เรืองและเกิดการต่อต้านไม่อยากฟังและหาเหตุผลต่างๆนานามาอ้างเช่น ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่ซักหน่อยหรือเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ เด็กบางคนอายที่จะเป็นคนเก่งเพราะบางสังคมจะมองว่าพวกคนที่ฟังออกพูดได้เป็นพวก "กระแดะ" (ขอใช้ภาษาหยาบ) แต่เพื่อนของผมบอกว่า ก็สอนตามหลักสูตรของสถาบันจะให้ไปเปลี่ยนแปลงตามใจชอบคงไม่ได้ ผมเลยได้แต่พูดว่า แต่เด็กก็ไม่ได้ตามหลักสูตรและผมก็ไม่ได้บอกว่าจะให้ไปสอนตามใจฉัน แต่ให้พยามผสมผสานระหว่างหลักสูตรกับความต้องการของผู้เรียน แน่นอนว่ามันอาจจะดูยากลำบากไปแต่ทำไปทีละนิดก็จะชำนาญ อย่างเช่นการยกตัวอย่างในภาษาอังกฤษพยายามหาตัวอย่างทีใกล้กับผู้เรียนมากที่สุด ถ้านักเรียนชอบคุยโทรศัพท์ในห้องเรียน ครูก็อาจจะสอนประโยคในการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ และให้นักเรียนที่ชอบคุยโทรศัพท์ในห้องเรียนออกมาแสดงเป็นตัวอย่าง ซึ่งหลายๆครั้งการทำแบบนี้ก็สามารถสร้างความฮือฮาในห้องเรียนได้(ขึ้นอยู่กับผู้สอนว่าอยากจะให้บรรยากาศในห้องเรียนออกมาเป็นอย่างไร)

อะไรที่มันโดนๆ ผู้เรียนจะสนใจ
ต้องดูว่าผู้เรียนเป็นใคร อายุเท่าไหร่ สนใจแบบไหน เป็นอย่างไร ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้สอนอาจจะเหนื่อยเพราะจะไปเจาะจงเป็นรายบุคคลคงจะไม่ใหว ให้ดูภาพรวมว่าเด็กส่วนใหญ่ในห้องเรียนชอบอะไร โดยเฉพาะวัยรุ่นจะเป็นวัยที่ตามๆกันไป ชอบอะไรหรือคลั่งไคล้จะคล้ายๆกัน วันนี้ผมเขียนบล็อคด้วยมือถือครับ อาจจะมีตัวสะกดผิดบ้างแต่จะมาแก้ไขภายหลังครับ
Published with Blogger-droid v1.3.4

Wednesday, June 9, 2010

มีลิ้งค์น่าสนใจมากฝากครับ

เป็นลิ้งค์เกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษครับ แต่ว่าเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ผมชอบก๊อปการสอนของฝรั่งมาใช้ครับ มันดูน่าสนุกดีครับ
โดยจะเป็น file mp3 สำหรับฟังและมี file เอกสารด้วยครับ


http://www.pearsonlongman.com/professionaldevelopment/podcasts/index.html#podcastarchive

Saturday, May 29, 2010

ผัดกระเพราสำหรับฝรั่งกิน เค้าทำกันแบบนี้เองเหรอเนี่ย

ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรมากครับ ฟังไม่ออก แต่เห็นวิธีทำของเค้าแล้วก็น่าจะพอรู้ว่าเค้าใส่อะไรบ้าง



Wednesday, May 19, 2010

curfew ได้ยินเค้าพูดกันบ่อย บางคนพูดทับศัพท์ไปเลยแต่รู้หรือเปล่าว่า curfew คืออะไร?!

เมื่อวันอังคาร ได้รับโทรศัพท์จากรุ่นพี่พลทหารคนหนึ่ง พี่เค้าบอกว่า "รู้หรือเปล่าว่าเค้าประกาศเคอฟิวแล้ว?" ตอนแรกผมฟังไม่ถนัดก็เลยถามเค้าว่า "ประกาศอะไรนะ?" พี่เค้าก็บอกว่า"รัฐประกาศสถานการฉุกเฉินแล้ว" พอพูดจบผมก็เลยงงนิดหน่อย เพราะบางคนจะเข้าใจผิดไม่รู้ว่า curfew คืออะไร รู้แต่ว่ารัฐประกาศเคอฟิว แต่เราสามารถแปลความหมายจากคำว่า Curfew ได้โดยง่าย เพราะศอฉ.พูดว่า ให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักตั้งแต่เวลา 20.00 ถึงเวลา 06.00 น. ดังนั้นคำว่า Curfew ก็น่าจะแปลว่า การห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาล หรือการประกาศมาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานในเวลาที่กำหนด ครับ

อันนี้ผมขอยกตัวอย่างพาดหัวข่าวในอินเตอร์เน็ตของ CNN มานะครับ (ประเทศไทยเป็นข่าวหน้าหนึ่งของสำนักข่าวต่างประเทศมาหลายวันแล้วครับ อิอิ)

Bangkok, Thailand (CNN) -- Thailand's government extended its curfew until Saturday, as violence continued Thursday in the country besieged by anti-government protests.

Officials changed the time of the curfew to 9 p.m. to 5 a.m.
แปลกันนะครับ เอาแบบภาษาบ้านๆ สไตล์ผมและกาน

Thailand's government extended its curfew until Saturday รัฐบาลไทยได้ยืดเวลาการใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานจนถึงวันเสาร์

as violence continued Thursday in the country besieged by anti-government protests.
ขณะที่สถานร้ายแรงยังเกิดขึ้นภายในประเทศยังถูกรุมล้อมโดยพวกต่อต้านรัฐบาล

Officials changed the time of the curfew to 9 p.m. to 5 a.m.
เปลี่ยนเวลาอย่างเป็นทางการของการใช้มาตรการห้ามบุคคลออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 21.00 - 05.00 น. ครับ


คำศัพท์การเมืองที่น่าสนใจครับ

Government = รัฐบาล
Violence = ความรุนแรง
protester = ผู้ต่อต้าน
Rally = การชุมนุม อันนี้เสริมครับไม่มีในหัวข้อข่าวที่ให้มา เ่ช่น Red Shirt Rally การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง



ผิดเพี้ยนยังไงก็สามารถมาแสดงความคิดเห็นได้นะครับ เพราะผมไม่ค่อยจะเก่งเรื่องแปลซักเท่าไหร่

Sunday, April 25, 2010

ภาษาแบบชาวอังกฤษ และภาษาแบบชาวอเมริกัน

ประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาหรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่าอเมริกานั้น ต่างใช้ภาษาที่ใช้สื่อสารคล้ายๆกัน ไม่เหมือนกันทั้งหมด ขนาดคนอเมริกันเองเวลาฟังคนอังกฤษพูดยังต้องตั้งใจฟังเลยครับ นับประสาอะไรกับคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ขนาดผมยังกล้าบอกเลยว่า ผมฟังภาษาแบบชาวอเมริกันรู้เรื่อง(แต่ไม่ทั้งหมดนะ) แต่เวลาผมฟังอังกฤษแบบชาวอังกฤษผมจะรู้บ้างไม่รู้บ้าง บางประโยคฟังไม่ทันก็มี จำคำไม่ได้เลยก็มีและผมมักจะมีปัญหาเวลาดูหนังเรื่อง Harry Potter และ The Lord of the Ring บ่อยๆ ขอดูแบบมีีซับไตเติ้ลดีกว่า และใครบอกว่าภาษาอังกฤษแบบชาวอังกฤษเสียงเพราะ ผมเถียงตายเลย เพราะผมคิดว่าฟังยากสำหรับผมและผมไม่เห็นว่าจะเพราะตรงไหน หรืออาจจะเป็นหลักจิตวิทยาว่าอังกฤษเป็นประเทศผู้ดีเวลาทำอะไรหรือพูดอะไรก็ดูสวยงามไปหมดมั้ง แต่ถ้าใครชอบสำเนียงอังกฤษเป็นก็ไม่ว่ากัน เพราะยังไงมันก็ภาษาอังกฤษเหมือนกัน
วันนี้ผมมีคำศัพท์ที่ชาวอังกฤษและชาวอเมริกันมาให้ครับ เป็นการเปรียบคำศัพท์ความหมายเดียวกันแต่สะกดและออกเสียงไม่เหมือนกัน 

Tuesday, March 30, 2010

ท่าทางจะได้อัพเดทอาทิตย์ละครั้งครับ

จะพยายามทำวีดีโอครับ แต่ว่ากลับมาที่บ้านตอนกลางคืน และอัดกับกล้องที่ติดมากะโน๊ตบุ๊ค แต่ว่าเวลาอัดตอนกลางคืนเสียงกับภาพดันไม่ตรงกันซะงั้นเพราะว่าแสงไฟไม่พอ    ท่าทางจะได้อัดตอนกลางวันอย่างเดียว จะพยายามอัพเดทเรื่อยๆครับ โดยจะทำอาทิตย์ละครั้ง ถ้าใครมีคำแนะนำหรือว่าอยากเป็นส่วนร่วมในการถ่ายทอด  ยินดีครับผม

Saturday, March 27, 2010

เว็บที่มีประโยชน์มากเกี่ยวกับการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน

My Vietnamese Friend's link, About American English Accent Training.
เป็นเว็บของเพื่อนผมครับ เป็นชาวเวียดนาม เกี่ยวกับการสอนออกเสียง มีประโยชน์มากๆ

http://my.opera.com/mtaep/blog/?startidx=4

Thursday, March 25, 2010

คำที่ลงท้ายด้วย ED ใน past tense ออกเสียงอย่างไร ตอน 1 มีวีดีโอแล้วครับ

สวัสดีครับ
คำที่ลงท้ายด้วย ED ใน past tense หรือในรูปแบบไหนก็แล้วแต่จะมีการออกเสียงที่แตกต่างกันไป โดยในวันนี้ผมขอยกตัวอย่าง คำที่ลงท้ายด้วยตัว  k และตามด้วย ed  กันครับ
อย่างเช่นประโยคตัวอย่างคำว่า "Walked" หลายท่านอาจจะออกเสียงว่า  วอร์คเค็ท อะไรประมาณนั้น แต่จริงแล้วๆ คำนี้ออกเสียงว่า "วอร์ก (เทอะ)ครับ และยังมีอีกหลายคำที่ออกเสียงแบบทำนองเดียวกันนี้ ตัวอยางเช่นคำว่า

Saturday, March 20, 2010

การลงชื่อเข้าใช้ Blogger ทำเอง

สวัสดีครับ ทดลองวีดีตัวเองแรกครับ ยังมีเรื่องปัญหาของเสียงครับ เพราะว่าพูดใกล้กะไกลไป ดังๆ เบาๆ แต่จะพยายามปรับปรุงให้อ่าน ง่ายขึ้นครับ


Tuesday, March 16, 2010

คนสอนเหนื่อยกว่าคนเรียนอย่างไร

วันนี้อยากจะระบายนิดๆ ว่าเวลาสอนแล้วมันรู้สึกเหนื่อยอย่างไร  ผมรักการสอนมากๆ โดยเฉพาะภาษา เวลาเห็นคนทำได้ก็จะรู้สึกว่าภูมิใจมากๆ แต่นักเรียนส่วนมากชอบจะเรียนและเห็นผลเลย (ใจร้อน) แต่

Saturday, March 13, 2010

Catherine Tates show เธอพูดได้ 7 ภาษา?

ทำไปได้นะ ผู้หญิงคนนี้

Thursday, March 11, 2010

American English and British English

มันต่างกันตรงไหนหว่า และจะพูดแบบไหนดีกว่า คือว่าเอาตามถนัดเลยครับ เอาตามความชอบ

Sunday, March 7, 2010

Heel or Hill ?

จะอ่านคำว่า Heel และ Hill  ให้ต่างกันยังไงดีน๊ะ คงจะไม่ใช่แค่ทำให้เสียง Heel ยาวและเสียง Hill สั้นอย่างเดียวแน่นอน

Friday, February 26, 2010

An Example of the Believers

A group of young women reach out in charity and kindness to a disabled student, fulfilling her dream and giving everyone something to cheer about.

Wednesday, February 24, 2010

เสียงทีหายไปไหนในคำว่า Impotant? T sound is held in the word "Important"

คำที่ลงท้ายด้วย ทึ่นๆ ทั้งหลาย อย่างเช่น Important อิมพอร์ททึ่น, Written ริททึ่น หลายครั้งที่คนอเมริกันจะไม่ออกเสียงตัว ที แต่จะออกเสียงเป็นตัว อึ่นแทน อ่านแล้วอาจจะงง ให้ลองออกเสียงว่า "อึ่น" ในลำคอประมาณนั้น เช่น อิมพอทอึ่น ริทอึ่น เขียนแล้วอาจจะงงลองไปดูวีดีโอเอาครับ ได้มาจากยูทูปเจ้าเก่า

Monday, February 22, 2010

จาก T เป็น D American T sound (Flap T)

สวัสดีครับ ในบางครั้งเราฟังคนอเมริกันพูดไม่ออก เพราะว่าคำบางคำเวลาสะกดกับการออกเสียงไม่เหมือนกันนี่เอง ตัวอย่างเช่น อเมริกัน ออกเสียง Water เป็น วอเดอร์ (จริงๆ แล้วเสียงจะคล้ายตัว D  แต่ไม่ใช่ตัว D ซะทีเดียว) ฝึกฟังเอาไว้ จะได้ฟังได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ 

Saturday, February 20, 2010

เสียงแรกของคำ สำคัญมากๆ Beginning sound(It'sImportant)

เสียงแรกของคำเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ถ้าออกเสียงไม่ได้จะพัฒนาไปอีกขั้นก็น่าจะยาก ยังไงลองฝึกบ่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ จนชินและกันครับ ประมาณซักสิบรอบก็น่าจะชินอิอิ

R Sound American Pronunciation

รู้ๆกันอยู่ว่าตัว R เป็นเสียงที่ไม่มีในภาษาไทยครับ เป็นเสียงที่ต้องฝึก ผมเลยเอาวีดีโอดีๆจากยูทูปเจ้าเก่ามาลงให้ครับ ให้เครดิตผู้จัดทำวีดีโอครับ
Rachelsenglish,  Pronunciationmeg, AccurateEnglish.
มีอีกอันที่มีประโยชน์แต่ไม่ได้เอามาลงครับ คือ JenniferESL
ถ้าตอนแรกฝึกไม่ได้อย่าเพิ่งท้อนะครับ เหนื่อยก็พัก และก็ฝึกใหม่ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เองครับ

Short I like "It" VS long E like "Eat"

สวัดีครับ อันนี้ได้มาจากยูทูปเจ้าเก่าครับ ให้เครดิตเขาหน่อย ได้จาก PronunciationMeg ครับ ยังไงไปดูเต็มได้ในยูทูปนะครับ 

English Starter Guide (Thai and English)

สวัสดีครับ
ผมเขียนบล็อกนี้เพราะว่าน่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างหล่ะน๊า  โดยบล็อกของผมจะช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษและที่สำคัญไม่เสียตังค์ขอรับ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษานะครับ แต่จะพยายามช่วยเต็มที่และอีกอย่างถ้าผู้รู้ท่านใดสามารถแนะนำสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ได้จะกราบขอบพระคุณงามๆครับ

Main Page